หลังจากที่มีข่าวว่า Facebook วางแผนเปลี่ยนชื่อบริษัทเพื่อมุ่งเน้นสร้าง ‘Metaverse’ ยกระดับบริษัท ให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วไป นับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของบริษัท ส่งผลให้เหรียญคริปโตลูกหม้อของ Facebook อย่าง ‘Libra’ กลับมาถูกพูดถึงอย่างหนักอีกครั้ง
หลังจากที่มีข่าวว่า Facebook วางแผนเปลี่ยนชื่อบริษัทเพื่อมุ่งเน้นสร้าง ‘Metaverse’ ยกระดับบริษัท ให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วไป นับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของบริษัท ส่งผลให้เหรียญคริปโตลูกหม้อของ Facebook อย่าง ‘Libra’ กลับมาถูกพูดถึงอย่างหนักอีกครั้ง สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเจ้าเหรียญนี้ดี ติดตามได้ในบทความนี้เลย!
2 ปีที่แล้ว Facebook เปิดตัวเหรียญคริปโตของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า Libra สกุลเงินดิจิทัลที่อิงบนพื้นฐานของ Blockchain มีเทคโนโลยีที่พิสูจน์มาแล้วว่าเชื่อถือได้สูง มีความโปร่งใส และตั้งใจที่จะเป็นสกุลเงินหลักของโลก พร้อมเปิดตัวกระเป๋าเงินดิจิทัล (wallet) ที่ชื่อว่า “Calibra” โดยระบุว่าช่วงเริ่มต้นจะเปิดให้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันอย่าง Facebook Messenger และ WhatsApp เพื่อโอนเงิน Libra ให้กันได้ แต่แล้วอนาคตของ Libra ก็ดูจะไม่ค่อยสดใสนัก เพราะใครที่ตามข่าวอยู่ก็คงจะรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ ชื่อของ Libra ก็เริ่มหายไปจากวงการคริปโต
ในช่วง 4 เดือนแรกของสมาคม Libra Association ได้สูญเสียสมาชิกผู้ก่อตั้งไปแปดราย ซึ่งรวมถึง PayPal, eBay, Stripe และ MasterCard หลังจากได้รับแรงเสียดทานจากภาคสังคมที่ไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยของ Facebook อย่างหนัก จนตอนหลังต้องเปลี่ยนชื่อเป็น ‘Diem’ เพื่อลดกระแสสังคมที่ตราหน้าว่า Libra ไม่น่าไว้วางใจ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อกระเป๋าเงินดิจิทัล จาก Calibra เป็น ‘Novi Diem’
‘Diem’ เป็น Stablecoin ที่จะอ้างอิงกับสกุลเงินเพียงสกุลเดียว (Single-Currency Stablecoin) แทนที่จะใช้ระบบ Multi-Currency Coin เหมือน Libra ในเวอร์ชั่นก่อน โดย Single-Currency Stablecoin จะมีสินทรัพย์ของสกุลเงินนั้น ๆ หนุนหลังเต็มจำนวน (ไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือพันธบัตรรัฐบาลแบบระยะสั้น) นอกจากนี้ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบ Diem ยังมีโครงการที่จะปรับปรุงรูปแบบให้สอดคล้องกับเกณฑ์ในเรื่องการฟอกเงิน และกฎระเบียบต่าง ๆ ว่าด้วยการป้องกันการก่อการร้าย
David Marcus ประธานฝั่ง Facebook Payments ที่ปัจจุบันดูแลเรื่อง Diem ได้ประกาศผ่าน Twitter ว่าจะทดสอบกระเป๋าเงินดิจิตอล Novi ในสหรัฐอเมริกา และกัวเตมาลา ระบบที่จะทำการทดสอบคือระบบทำ transaction ในการโอนเงินข้ามผู้ใช้งาน และการบริการลูกค้า รวมไปถึงกฏหมายที่ควบคุมการซื้อขายเทรดเงินคริปโตที่ Facebook จะใช้ Stable Coin อย่าง Pax Dollar (USDP) ซึ่งมีการใช้งานมาพอสมควร และผ่านเงื่อนไขควบคุมของรัฐ และมีการคุ้มครองความเสี่ยงให้กับผู้บริโภค เพื่อให้ภาครัฐไม่มีข้ออ้างในการสั่งให้ยุติการให้บริการ โดย Marcus ได้ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่าหลังจาก Diem ได้รับไฟเขียวอนุญาตให้ใช้งานแล้ว Facebook จะใช้ Novi ร่วมกับ Diem อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ การที่เหรียญ Diem จะมาเปลี่ยนแปลงโลกการเงินคงไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝัน เพราะ Facebook มีข้อได้เปรียบมหาศาลที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ นั่นคือผู้ใช้งาน Facebook กว่า 2.9 พันล้านคน ไม่ว่าเหรียญ stablecoin ใดที่ Facebook จะรองรับ ก็มีผู้คนจำนวนมากรอที่จะลองใช้มันอยู่แล้ว ในปีที่แล้วเราพบว่ามี Bitcoin Address มากถึง 30 ล้าน Address ยังไม่รวมกองทุนต่าง ๆ อีกนะ หากผู้ใช้ Facebook 2% ซื้อเหรียญ Diem ในกระเป๋าเงิน Novi ของพวกเขา นั่นก็เท่ากับจะมีผู้ใช้เหรียญ Diem มากถึง 58 ล้านคน นี่จึงเป็นเหรียญคริปโตอนาคตไกลที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด หากมีอัพเดตเพิ่มเติมอย่างไร เราจะรีบมารายงานกันทันทีเลย!
ติดตามข่าวสารที่สดใหม่ รวดเร็ว ถึงใจ พร้อมบทความเกร็ดความรู้ในโลกคริปโตแบบนี้ ได้ที่ “WikiBit” แอปนำเสนอข่าวสารวงการคริปโต และพร้อมให้บริการตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน เพียงแค่กดค้นหา ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะขึ้นมาแบบจัดเต็ม ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
South Korea: Upbit Investigated for Over 500,000 KYC Violations
MacBook Users with Intel Chips Urged to Update for Enhanced Security
Solana-Based Trading Terminal DEXX Hacked, Over $21M in User Losses
South Korea to Enforce 20% Crypto Tax in 2025 with Increased Exemption Limit
0.00
XT
Just2Trade
IUX
LocalBitcoins
OKCOIN JAPAN
BitcoinNW
itez
StakeCube
GMOコイン
bithumb