ล่าสุด Coincub ได้ดำเนินการจัดอันดับประเทศที่เป็นผู้นำด้านคริปโตสำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ซึ่งผู้ชนะได้แก่สิงคโปร์ที่โค่นตำแหน่งสหรัฐอเมริกาไปได้
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศหนึ่งกลายเป็นผู้นำอันดับหนึ่งย่อมมาจากปัจจัยหลายอย่าง? ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่จำนวนโหนดบิทคอยน์ และตู้ ATM คริปโตลับในประเทศ ไปจนถึงกฎระเบียบระดับภูมิภาคและความพร้อมใช้งานของกระเป๋าเงิน
ล่าสุด Coincub ได้ดำเนินการจัดอันดับประเทศที่เป็นผู้นำด้านคริปโตสำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ซึ่งผู้ชนะได้แก่สิงคโปร์ที่โค่นตำแหน่งสหรัฐอเมริกาไปได้
สิงคโปร์ได้ครองตำแหน่งนี้ไปผู้ชนะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากประเทศสิงคโปร์ ประเทศผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เป็นผู้นำในตัวชี้วัดจำนวนมาก เช่น การยอมรับของสถาบัน ความพร้อมของการแลกเปลี่ยนและกระเป๋าเงิน กฎระเบียบ บริการทางการเงิน ความโปร่งใส การใช้จ่ายในสกุลเงินดิจิทัล และกิจกรรมของธนาคารในสกุลเงินดิจิทัล
รายงานยังระบุว่า คนในประเทศกว่า 9.4% หรือ 5.6 ล้านคนในประเทศมีการถือครองคริปโต
“เพื่อรักษาตำแหน่งในการแข่งขันทางด้านคริปโตสิงคโปร์ได้เสนอแนวทางทางกฎหมายที่หนักแน่นแต่ชัดเจนโดยมีการเก็บภาษีจากรายได้คริปโตที่ต่ำบวกกับทัศนคติที่ก้าวหน้าในภาคการเงินและการค้าปลีกอย่างมาก”
อย่างไรก็ตาม ด้านหนึ่งที่สิงคโปร์ตามหลังคือ การยอมรับจาก DeFi โดยจากรายงานระบุว่า
“การกระจายอำนาจทางการเงิน (DeFi) อยู่เบื้องหลังความสนใจและการเติบโตอย่างรวดเร็วของสกุลเงินดิจิทัล และได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีบล็อคเชน ธนาคารกลาง หรือ Monetary Authority of Singapore (MAS) กำลังมองหากฎระเบียบใหม่ของภาคการเงิน ซึ่งรวมถึงมาตรฐานที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับผู้ให้บริการคริปโตเคอเรนซี และข้อกำหนดที่สูงขึ้นสำหรับการจัดการความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีในสถาบันการเงิน”
ประเทศผู้ชนะอื่นๆ ในห้าอันดับแรก ได้แก่ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และแคนาดา อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ถูกโค่นลงจากตำแหน่งนี้ อันเนื่องมาจากความเข้มงวดทางด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโตนั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศที่รั้งท้ายสุดในการจัดอันดับคือจีน เนื่องจากการแบนการทำธุรกรรมคริปโต ประเทศรั้งทายรายอื่นๆ ได้แก่ รัสเซีย นิวซีแลนด์ และไนจีเรีย
ในขณะนี้ สิงคโปร์มีตู้ ATM /ตู้เติมเงินบิทคอยน์อยู่ประมาณเก้าแห่ง อย่างไรก็ตาม Coincub ตั้งข้อสังเกตว่า การขุดบิทคอยน์นั้นยังห่างไกล เนื่องจากมีอัตราภาษีที่สูง
Huobi ก็ย้ายฐานการดำเนินงานไปสิงคโปร์แล้วเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน Huobi Group แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตยักษ์ใหญ่ ได้ตัดสินใจจัดตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์แล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าก่อนหน้านั้น Huobi ได้เพิ่มสิงคโปร์เข้าไปในลิสต์ประเทศที่มีอำนาจจำกัดก็ตาม
คำถามสำคัญก็คือ แม้ว่าสิงคโปร์อาจดูเหมือนศูนย์กลางทางด้านคริปโตแห่งอนาคต แต่ผู้อยู่อาศัยในสิงคโปร์สามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงใด
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
7.91
North Korean Malware Targets macOS Users by Evading Apple Notarization
Thune helped cosponsor a crypto bill in 2022 called the Digital Commodities Consumer Protection Act
DeltaPrime Protocol Attacked on Arbitrum and Avalanche, Resulting in $4.8 Million Loss
Polymarket Founder Raided by FBI After Trump Win, Company Says
0.00