เคยเป็นไหม เฝ้าอยู่หน้าจอดูกราฟทุกชั่วโมง คิดวนไปวนมาอยู่ในหัว ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้คุณอาจเป็น Sunk Cost Trap หรือ “กับดักของต้นทุนที่จมลง”
กับดักทางจิตวิทยาเรื่องทุนจม (sunk cost) ที่ทำนักเทรดเดอร์ เที่ยวดอยกันไม่หยุด
.
Sunk Cost Trap หรือ “กับดักของต้นทุนที่จมลง” หากยกตัวอย่างเทียบง่ายๆ ให้ลองนึกถึง “คู่รักที่คบกันมานานสุดท้ายไม่กล้าเลิกกัน เพราะเสียดายเวลาที่ใช้ร่วมกันมา”
การลงทุนก็อาจจะเป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน ก่อนอื่นนักลงทุนต้องพยายามเข้าใจก่อนว่าทรัพยากร ที่เราใช้ในการลงทุน มีสองประการ คือ เงิน และเวลา โดยสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพยายามหมั่นเพียร หามาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเงินๆทอง จึงทำให้เราพบว่าเป็นเรื่องยากที่เราจะยอมรับความสูญเสียได้
.
ดังนั้นเราจึงบังคับตัวเองให้อยู่กับมันเพราะอารมณ์ที่ผูกพันกับสิ่งเหล่านั้น ทั้งหมดมันคือเรื่องจิตวิทยา บางท่านอาจจะอินจัดถึงขั้นไม่เป็นอันกินอันนอน เสียการเสียงาน เฝ้าอยู่หน้าจอดูกราฟทุกชั่วโมงเพราะเมื่อใดที่เราเริ่มใช้อารมณ์เข้ามามีส่วนร่วมจะมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อขายที่ไม่ค่อยดีมากนัก เช่น บางครั้งเราก็ปล่อยให้การขาดทุนนานเกินไป หรือการกลัวแพนิคติดตามข่าวมาเกินไปก็ไปขายตัดกำไรเสียก่อน หรือความมั่นใจในการเพิ่มขนาดของการซื้อขายเพื่อเอาส่วนที่เสียไปกลับคืนมา (การถัวนั้นเอง)
.
และหากเราไม่ได้ตัดสินใจ ทำตามข้อความข้างต้นนี่แล้ว มีแนวโน้มว่าเราจะรู้สึกผิดหากเราเลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามการตัดสินใจของเรา โดยจะใช้อคติในตัวเลข ในความเสียหาย ในอดีตมาสนับสนุนการตัดสินใจของเรา แม้ว่าหลักฐานจะแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ใช่แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เพราะไม่ต้องการให้การลงทุนของพวกเขาพลาดไปและเสียเวลาไป
.
ความจริงเกือบทั้งหมดนี่ คือเราได้รับอิทธิพลจากอารมณ์ของเรา เราต้องยับยั่งว่าในเวลานี้มันไม่ใช่ตัวตนที่ของเราในการตัดเลือกตัดสินใจที่มีเหตุผลอย่างนัก ก่อนอื่นวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ เราต้องกล้าที่จะล้มเหลว และยอมรับในเรื่องความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ความพยายาม หรือเวลา เงิน ที่เราใช้ไปแล้วจะไม่สามารถกู้คืนได้ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจโดยพิจารณาจากต้นทุนในอดีตมากกว่าต้นทุนและผลประโยชน์ในปัจจุบันและในอนาคต และที่สำคัญคือเรื่องของการจิตใจอย่างทีีเคยกล่าวไปว่าเราควรพยายามยับยั้งชั่งใจ ด้วยการวางแผนการเทรดให้ชัดเจน ออกแบบความเสี่ยงได้ที่ตัวเองสามารถยอมรับได้ หรืออีกวิธีแก้ปัญหากับดักทางจิตวิทยานี้ Brian Tracy นักคิดนักเขียนชื่อดัง ได้ให้แนวคิดนึงที่เรียกว่า Zero Based Thinking คือการตั้งคำถามกับตัวเอง“ถ้าวันนี้ตัวฉัน ต้องเริ่มใหม่หมดตั้งแต่ 0 ฉันจะเริ่มต้นใหม่อย่างไร” หมายถึง ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราได้โอกาส Reset ทุกอย่างใหม่หมด อะไรคือสิ่งที่เราอยากทำ? เราจะปฏิบัติตัวยังไง? การตัดสินใจอะไรที่จะมีการเปลี่ยนไปบ้าง?วิธีการคิดนี้เป็นเหมือนการหลีกเลี่ยงไม่ให้ปัญหาในอดีตมาขัดขวาง การตัดสินใจของคุณ เพราะตลาดนั้นมีความไม่แน่นอนและอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เสมอ แต่สิ่งที่ควบคุมได้ก็คือการจัดการกับตัวคุณเอง อย่าตกหลุมพลางให้กับดักนี้จนละเลยถึงแผนการที่คุณวางไว้
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
South Korea: Upbit Investigated for Over 500,000 KYC Violations
MacBook Users with Intel Chips Urged to Update for Enhanced Security
Solana-Based Trading Terminal DEXX Hacked, Over $21M in User Losses
South Korea to Enforce 20% Crypto Tax in 2025 with Increased Exemption Limit
0.00
rockitcoin
HoneyBadger
FXCC
COEX STAR
COINTIGER
BITBLINX
BINANCE
Ndax
Bitget
bitvavo