หลอกเงินนักลงทุนกว่า 500 ล้านบาท !
ท่ามกลางกระแสความแรงคริปโตเคอเรนซี่ ที่ผ่านมา อาจจะล่อตาล่อใจให้นักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาเล่นกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีไม่น้อยที่ตกเป็ยเหยื่อของมิจฉาชีพ
.
วันนี้ Wikibit จะพามาย้อยรอยทำความรู้จัก คดีดังคริปโตเคอเรนซี่ในช่วงปีที่ผ่านมา “พ่อมดคริปโตเคอเรนซี่” หลอกเงินนักลงทุนกว่า 500 ล้าน เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับบังลงทุนน่าใหม่ให้พึ่งระวัง
.
เรื่องราวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อระหว่างปี 2561-2562 นายมานะ (สงวนนามสกุล) ได้มีพฤติการณ์ร่วมกับพวกคนไทยและชาวเวียดนาม อ้างตัวเป็นนักค้าเงินสกุลดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซี่ โดยทำกันเป็นขบวนการมีทั้งคนเปิดบัญชี คนเจรจาหลอกลงทุน และคนคุมเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งในส่วนของนายมานะ จะเปรียบเหมือนหัวหน้าขบวนการ และมักอ้างตัวว่าเป็น “พ่อมด คริปโตเคอเรนซี่” (ผู้ที่ชำนาญด้านการค้าเงินสกุลดิจิตอล) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยให้สามารถชักจูงให้กลุ่มผู้เสียหาย ร่วมลงทุนในเงินสกุลดิจิตอลต่างๆ ได้ง่ายทรวมถึงยังอ้างว่าหากนำเงินมาร่วมลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูง กำไรดี เช่น ลงทุนเงินเพียง 200 วัน จะได้กำไรทันที 400 % เป็นต้น
.
นอกจากนี้แก๊งของนายมานะ ยังมีพฤติการณ์ชักชวนกลุ่มผู้เสียหายให้ลงทุน ในสกุลเงินดิจิตอลสกุลเงินวันคอยน์ โดยอ้างว่าได้เปิดร้านขายสินค้าบนแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าขึ้นมา เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้มีการซื้อขายสินค้าโดยใช้เงินดิจิตอลสกุลวันคอยน์โดยเฉพาะซึ่งในแพลตฟอร์มดังกล่าวจะมีสินค้าลงประกาศขายด้วยกันหลายรายการ อาทิ บ้านพักอาศัย, รถยนต์, ที่ดิน, ทองคำ, อาหารเสริม, เครื่องสำอาง และเสื้อผ้า
.
การลงทุนเหล่านี้นายมานะยังอ้างว่า ผู้ลงทุนจะได้รับอัตราค่าตอบแทนสูง และมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เช่น แลกสินค้าต่างๆ, แลกทองคำ, แลกรถเบ๊นซ์ หรือแลกบ้านเดี่ยว เป็นต้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ หลงเชื่อ จึงร่วมลงทุนไปรวมเป็นเงินกว่า 500 ล้านบาท
.
สิ่งที่ให้นักลงทุนตายใจในช่วงแรกมีการจ่ายเงินปันผลจริง ซึ่งก็คาดว่ามาจากการที่ นายมานะ ได้ทำเป็นเหมือนแชร์ลูกโซ่ เอาเงินคนนั้นมาจ่ายคนนี้ เป็นต้น แต่ต่อมาเมื่อเห็นว่าเหยื่อเยอะมากขึ้น จึงเริ่มออกลายไม่จ่ายค่าตอบแทน ก่อนจะตัดขาดการติดต่อหนีไปในที่สุด
.
กลุ่มผู้เสียหายจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความตามท้องที่ต่างๆจนมีการออกหมายจับก่อนที่ตำรวจกองปราบปรามฯจะสามารถติดตามจับกุมตัวเมื่อปลายปี 2562 หากถามว่าทำไมถึงมีผู้เสียหายจำนวนมากขนาดนี้ คงต้องบอกว่าหากย้อนไปช่วงในปี 2562 ประเทศไทย กำลังมีกระแสนิยมกับคริปโต บริษัทนายหน้าการลงทุน (Broker) หรือแพลตฟอร์มกระดานเทรดในช่วงนั้นก็ยังมีน้อย ประจบกับที่ในช่วงนั้นเอง มีข้อมูลคริปโตให้ศึกษาน้อยกว่าปัจจุบัน ถือว่าเป็นคดีที่ใหญ่ที่สุดของไทย ในช่วงที่คริปโตกำลังมาแรงอีกคดีหนึ่ง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
Slowmist Releases October Web3 Security Incident Report
TEAMZ Web3・AI Summit 2025: Bringing Global Leaders to Tokyo
Russia Establishes Legal Framework and Standards for Crypto Mining
Japan’s Crypto Industry to Launch “Self-Regulation” of Stablecoins
0.00
Genesis
SpectroCoin
changelly PRO
Oodlebit
FOREX24
BSDEX
BINANCE.KR
coinbase
BitcoinNW
coinmotion