ในปี 2022 นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะทำให้ตลาดคริปโตพัง
รีรัน 5 เหตุผล ! ที่จะเป็นจุดอ่อนของ คริปโต ในปี 2022 นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะทำให้ตลาดคริปโตพัง
.
1. ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอย ประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นตลาดคริปโตกำลังมีปัญหาการแกว่งตัวครั้งใหญ่เกิดขึ้นบ่อย ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การพลิกกลับหลังจากการขึ้นลงเหล่านี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของเดือนมีนาคม 2020 มูลค่ารวมของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 14 เท่า ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับการเพิ่มขึ้น 35 เท่าของมูลค่าตลาดโดยรวมในช่วง 10 เดือนระหว่างเดือนมีนาคม 2017 ถึงมกราคม 2018 หลังจากการเพิ่มขึ้นของเดือนมกราคม 2018 มูลค่ารวมของตลาดคริปโตทั้งหมดลดลง 90% ในช่วง 11 เดือนต่อมา
.
2. Blockchain ไปไกล แต่คนใช้มีน้อย นักลงทุนอาจประเมินค่าสูงไปว่าเทคโนโลยีหรือบริการใหม่ ๆ จะถูกนำมาใช้โดยเร็ว เห็นได้จากการถือกำเนิดของอินเทอร์เน็ต จีโนม การพิมพ์ 3 มิติ และตอนนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชน แม้ว่าบล็อคเชนจะน่าตื่นเต้น แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง หรือนำไปใช้ในวงกว้าง ธุรกิจไม่น่าจะกระโดดคว้าโอกาสที่จะสนับสนุนโครงการขนาดใหญ่จนกว่าจะมีหลักฐานของประสิทธิผลในโลกแห่งความเป็นจริง แต่เราจะไม่ได้รับหลักฐานนี้จนกว่าธุรกิจจะต้อนรับ blockchain อย่างเปิดกว้าง
.
3. คริปโตไม่สามารถแยกตัวออกจากตลาดหุ้นได้ อีกเหตุผลหนึ่งที่คริปโตอาจล้มเหลวในปี 2565 ก็คือการที่พวกเขาไม่สามารถแยกตัวออกจากตลาดหุ้นได้ คริปโตถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์อิสระและเป็นการป้องกันความเสี่ยงให้กับตลาดในวงกว้าง เช่น ปริมาณเงินในสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนมองว่า Bitcoin เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยซึ่งจะช่วยจัดเก็บและเพิ่มความมั่งคั่ง ดีกว่าดอลลาร์สหรัฐ ปัญหาคือคริปโตเคอเรนซี่ยังไม่ดีขึ้นเมื่อตลาดหุ้นเกิดความผิดพลาดหรือการแก้ไข ในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2018 ดัชนี S&P 500 ลดลง 20% ในขณะเดียวกันมูลค่ารวมของตลาดคริปโต ลดลงจากประมาณ 2.22 แสนล้านดอลลาร์เป็น 1.3แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน (ลดลง 41%) คือลดลงไปตาม ๆ กัน
.
4. หนี้จากมาร์จิ้นสร้างหายนะ Margin หมายถึงจำนวนเงินที่นักลงทุนกู้ยืมโดยมีดอกเบี้ยเพื่อซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ในบางกรณี นักลงทุนที่ใช้มาร์จิ้นเพื่อยกระดับการซื้อขายของพวกเขาทำให้ผลตอบแทนมาขึ้น แต่ถ้าหลักทรัพย์ที่ซื้อด้วยมาร์จิ้นไม่เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คาดหวังในระยะสั้น โบรกเกอร์อาจให้นักลงทุนเพิ่มทุนเป็นหลักประกัน หรืออาจบังคับขายสินทรัพย์ ที่เป็นหลักประกัน เมื่อต้นปีนี้ นักลงทุนบางรายอาจใช้ประโยชน์จากสถานะเงินสด 100 เท่าเมื่อทำการซื้อขาย Bitcoin ด้วยเลเวอเรจมหาศาล แม้แต่การเคลื่อนไหว 1% หรือ 2% ใน Bitcoin (ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในชั่วพริบตา) อาจนำไปสู่การเรียกหลักประกันและการบังคับชำระบัญชี
.
5. เหรียญ Meme หมดมนต์ขลัง ปีนี้แทบทุกเหรียญที่ตั้งชื่อตามสุนัขพันธุ์ชิบะอินุของญี่ปุ่นคือพุ่งแบบเว่อมากกก Shiba Inu พุ่งกว่า 45,000,000% ในขณะที่ Dogecoin และ Floki Inu สูงขึ้น 3,119% และ 2,763% ตามลำดับ เหรียญเหล่านี้ล้วนเป็นมีมคอยน์ที่เติบโตตามกระแส ซึ่งไม่ได้แปลว่าจะสามารถดึงดูดใจในโลกแห่งความเป็นจริงหรือศักยภาพในระยะยาว และพลังของมันอาจสิ้นสุดในปีหน้า
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
South Korea: Upbit Investigated for Over 500,000 KYC Violations
MacBook Users with Intel Chips Urged to Update for Enhanced Security
Solana-Based Trading Terminal DEXX Hacked, Over $21M in User Losses
South Korea to Enforce 20% Crypto Tax in 2025 with Increased Exemption Limit
0.00
changelly PRO
CJC MARKETS
DEEPCOIN
BYBIT
BigONE
yesbit
Amana Capital Ltd
Bilaxy
OurBit
bitstorage