แก่ก็มีหัวใจ ! ลุงอายุ 70 ถูกสาวสวยหลอกลงทุนในคริปโต สูญเงินเกือบ 5 ล้าน TT
นายสมชาย (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย.65 ตนได้ถูกหญิงสาวรายหนึ่งทักมาหาทางข้อความในเฟซบุ๊กโดยรูปโปรไฟล์เป็นรูปหญิงสาวหน้าตาเหมือนหน้าแบบลูกครึ่ง ก่อนหญิงสาวรายนี้จะขอเปลี่ยนการพูดคุยจากข้อความในเฟซบุ๊กมาเป็นไอดีไลน์ไลน์แทน จากนั้นมาหญิงสาวรายนี้ก็ทักไลน์มาหาตนเข้า กลางวัน เย็น รวมทั้งกลางคืนเพื่อชวนคุยเรื่องทั่วไป บางครั้งก็เริ่มเรียกตนว่าที่รักเป็นประจำ จนเริ่มสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง จากนั้นหญิงสาวรายนี้ก็เริ่มชวนตนพูดคุยถึงเรื่องการงานและการลงทุนเทรดเหรียญคริปโตเพื่อเก็งกำไร ซึ่งตัวเขาเป็นนักธุรกิจหญิงในพื้นที่ จ.เชียงใหม่
นายสมชายเผยว่า จากนั้นหญิงสาวรายนี้ได้ให้ตนเข้าโหลดแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับการเทรดเหรียญจากแอปสโตร์มาติดตั้งในมือถือ โดยได้สอนให้ตนลงทุนหัดเทรดเหรียญ แต่มีข้อตกลงกันว่าถ้าได้กำไรจากการเทรนด์มาจะต้องนำมาแบ่งกันคนละครึ่ง ซึ่งเมื่อตนโหลดแอปมาติดตั้งเรียบร้อย แล้วหญิงสาวรายนี้ได้ให้ตนติดตั้งแอปเพิ่มอีกตัวหนึ่งโดยอ้างว่าเป็นแอปที่ติดตั้งไว้เพื่อดูยอดเงินและกำไรในการเทรนด์ ด้วยความที่ตนหลงเชื่อใจในวันที่ 3 ก.ค. จึงทดลองโอนเงินไปเล่นครั้งแรกเป็นเงินจำนวน 18,000 บาท และได้กำไรกลับมา 20% ซึ่งยอดเงินในแอปก็เพิ่มขึ้น ตนเห็นว่าได้กำไรดี ประกอบกับหญิงสาวมาชักชวนให้ตนลงทุนซื้อเหรียญเพิ่ม ตนจึงได้โอนเงินไปซื้อเหรียญเพิ่มอีก เป็นเงินจำนวน 330,000 บาทตามที่หญิงสาวชักชวน แต่เป็นชื่ออีกบัญชีหนึ่ง
ซึ่งเมื่อตนสอบถามหญิงสาวก็ให้เหตุผลว่าเขาเองมีเหรียญไม่พอต้องซื้อจากคนอื่นมาเพิ่มอีกทอดหนึ่ง จากนั้นยอดเงินในแอปที่ตนลงทุนไปก็มีกำไรเพิ่มขึ้นอีก ต่อมามีเงินโอนเข้าในบัญชีตนจำนวน 17,000 บาท ซึ่ง หญิงสาวบอกว่าเป็นในส่วนของกำไรที่แบ่งกันก็ยิ่งทำให้ตนเชื่อใจเพิ่มขึ้น จากนั้นหญิงสาวก็ได้โทรมาชักชวนให้ตนลงทุนเพิ่มอีก โดยอ้างว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังทำกำไรได้ดี ต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ และหากได้กำไรครบตามเป้าที่ตั้งเอาไว้แล้วก็จะถอนเงินทั้งหมดออกมาแบ่งกันคนละครึ่ง ทำให้หลงเชื่อโอนเงินเข้าไปซื้อเหรียญเพิ่มอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 150,000 บาท เป็นเงิน 300,000 บาท
นายสมชายเผยอีกว่า หลังจากตนลงทุนเพิ่มในครั้งหลังไปอีก 3 แสนบาท ปรากฎว่าได้กำไรกลับมาถึง 50 % โดยยอดเงินในแอปเพิ่มขึ้นไปถึง 14 ล้านบาท ตนเองจึงคิดว่าได้กำไรขนาดนี้แล้วควรจะหยุดเล่นแต่กลับถูกหญิงสาวรายนี้หว่านล้อมหลอกล่อให้ลงทุนเพิ่มอีกเนื่องจากยอดกำไรยังไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ ทำให้ตนชักเริ่มเอะใจ ไม่ลงทุนเพิ่มและหยุดเทรดไปหลายวัน แต่หญิงสาวรายนี้ก็พยายามทักแช็ตและไลน์มาคุยตลอดเวลาโดยพยายามโน้มน้าวให้ตนลงทุนอีกครั้งเพื่อทำยอดกำไรให้ได้เพิ่มตามเป้าแล้วจะหยุดโอนเงินทันที จนกระทั่งวันที่ 6 ก.ค. ตนจึงได้โอนเงินเพิ่มเข้าไปอีกจำนวน 1 ล้านบาท และโอนเพิ่มอีกครั้งเป็นเงินจำนวน 550,000 บาท
ปรากฎยอดเงินในแอปเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงินถึง 28 ล้านบาท ทำให้ตนต้องการถอนเงินออกและหยุดเล่น แต่หญิงสาวรายนี้ยังได้พยายามชักชวนตนให้นำเงินมาลงทุนต่อโดยบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เหรียญกำลังมีกำไรสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ตนเห็นว่ายอดเงินและกำไรสูงมากแล้วจึงขอหยุด แต่ถูกหญิงสาวอ้างว่าขอทำเป้าให้ถึง 50 ล้านแล้วจะหยุด ขอให้ตนลงทุนเพิ่มอีก ตนทนหญิงสาวรบเร้าไม่ไหวจึงตัดสินใจโอนเงินอีกครั้งในวันที่ 8 ก.ค. เป็นเงินจำนวน 1.2 ล้านบาท และวันที่ 13 ก.ค. จำนวน 1 ล้านบาท และวันที่ 14 ก.ค. ซึ่งเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายอีกจำนวน 5 แสนบาท รวมยอดโอน 9 ครั้งเป็นเงิน 4,898,000 บาท
นายสมชาย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นต่อมายอดเงินในแอปซึ่งตนมาคิดได้ในภายหลังว่าน่าจะเป็นแอปปลอมที่ถูกหลอกให้ติดตั้งมียอดเงินขึ้นไปถึง 50 ล้านบาท ตนจึงรีบแจ้งให้หญิงสาวหยุดเทรดและให้ถอนเงินออกมาแบ่งกันได้แล้ว แต่หญิงสาวแจ้งกับตนมาว่า ทางแอปจะอนุมัติให้ถอนเงินออกได้ครั้งละ 5 แสนเหรียญ คือประมาณ 14 ล้านบาท ตนจึงตอบตกลงแต่เมื่อดำเนินการถอนแอปมีข้อความเแจ้งมาว่าให้ชำระภาษีเงินได้จากกำไรทั้งหมดก่อนจำนวน 20% จึงจะสามารถถอนเงินออกมาได้ ซึ่งเมื่อตนนำยอดกำไรทั้งหมดมาคำนวนจ่ายภาษีดู ก็พบว่าจะต้องจ่ายค่าภาษีถึงจำนวน 8 ล้านบาทถึงจะถอนเงินจำนวน 50 ล้านบาทออกมาได้ ตนจึงให้หญิงสาวแจ้งกับทางแอปไปว่าให้หักเงินภาษีออกจากยอดเงิน 50 ล้านแทนได้เลย แต่หญิงสาวบอกว่าทำไม่ได้ ทางแอปไม่ยินยอมต้องหาเงินจำนวน 8 ล้านบาทมาจ่ายภาษีก่อนเท่านั้น ซึ่งตนก็หมดเงินเก็บที่มีทั้งหมดไปแล้ว แต่กลับถูกหญิงสาวรายนี้ให้ไปจำนองบ้านหรือกู้ยืมเงินนอกระบบมาจ่ายค่าภาษีที่ค้างอยู่ จึงทำให้ตนเริ่มสงสัยเกี่ยวกับการหลอกลงทุนเทรดเหรียญ จึงได้ลองหาข้อมูลในโซเชียลพบว่ามีกลโกงแบบนี้เป็นจำนวนมาก
จากนั้นเมื่อหญิงสาวรายนี้เห็นว่าตนคงไม่สามารถหาเงินอีกจำนวน 8 ล้านบาทมาได้ จึงบล็อกการติดต่อตนทุกช่องทาง ตนจึงได้ตัดสินใจไปเข้าแจ้งความในเบื้องต้น แต่คดีไม่คืบ จึงได้ติดต่อขอคำปรึกษาจากผู้สื่อข่าวเพื่อให้นำเรื่องราวของตนเป็นอุทาหรณ์เตือนใจนักลงทุนหน้าใหม่ทั้งหลายที่หวังจะหารายได้ทางนี้ รวมถึงภัยจากมิจฉาชีพในโลกโซเซียลที่แฝงตัวมาทำให้เชื่อใจหรือหลอกเอาทรัพย์สินด้วยกลวิธีต่างๆ นอกจากนี้ตนยังได้เตรียมเข้าปรึกษาทนายเพื่อขอความช่วยเหลือ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความชำนาญในเรื่องนี้ให้ตรวจสอบบัญชีที่ตนได้โอนเงินไปลงทุนซื้อเหรียญเพื่อตามหาตัวหญิงสาวรายนี้ต่อไป ตนไม่คิดว่าเงินเก็บที่เก็บมาทั้งชีวิตเพื่อใช้ในช่วงปั้นปลายของชีวิตจะมาถูกมิจฉาชีพในคราบหญิงสาวหลอกให้ลงทุนไปจนหมดแบบนี้.
ข้อมูลทั้งหมดจาก : www.one31.net
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
South Korea: Upbit Investigated for Over 500,000 KYC Violations
MacBook Users with Intel Chips Urged to Update for Enhanced Security
Solana-Based Trading Terminal DEXX Hacked, Over $21M in User Losses
South Korea to Enforce 20% Crypto Tax in 2025 with Increased Exemption Limit
0.00
AAX
bigX
LUNO
BKEX
TRADE.COM
blocktrade
BETONLINE
SafeTrade
BitCanuck
bithumb