JTS ขยาย Datacenter จ่อร่วมมือ Global Cloud Provider ย้ายเหมืองขุดบิตคอยน์
ในส่วนของ JTS Singapore ซึ่งดำเนินธุรกิจทางด้านพัฒนาซอฟท์แวร์ Cloud AI, Internet of Things (IoT) และ Fintech อยู่ระหว่างการพัฒนา Bitcoin & Lightning Platform เพื่อเป็น Enabler ให้กับทุกธุรกิจที่ต้องการรับ Bitcoin ไม่ว่าจะเป็น Enterprise, SME หรือ รายย่อย ผ่านโครงข่าย Bitcoin Lightning Network (Bitcoin Layer2) สามารถทำงานได้ง่ายเพื่อรองรับการชำระและส่งผ่าน Bitcoin ได้ทั่วโลก มีความปลอดภัยและรวดเร็วกว่าการส่งผ่านบิตคอยน์บนระบบ Mainnet
โดยสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันโดยรองรับ Feature ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น BTC Wallet, Saving, Point of Sale (POS) และ Back Office, Report & Analytics, Point-Reward & Membershipซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะนําเสนอการประมวลผลการชําระเงินที่รวดเร็ว ปลอดภัย และช่วยส่งเสริม Bitcoin Ecosystem ในการนำมาใช้งานในภาคธุรกิจและชีวิตประจำวันได้
.
บริษัท จัสเทล เนทเวิร์ค จำกัด (Jastel) ซึ่งเป็นบริษัทภายในกลุ่มบริษัท JTS ยังคงดำเนินการขยายธุรกิจ Data Center อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ให้บริการทางด้าน OTT และ Content จากต่างประเทศ รวมถึงความร่วมมือครั้งใหม่กับผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลก ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเป็นพันธมิตร เพื่อยกระดับการให้บริการไปยัง AIPlatform Service, Cloud Data Warehouse, Industrial IoT, Serverless Application Center, Enterprise Application จากความร่วมมือนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถให้กับกลุ่มบริษัท JTS ในการจัดหาโซลูชัน และการสนับสนุนที่เป็นนวัตกรรมใหม่สําหรับลูกค้า
นายดุสิต กล่าวว่า การขยาย Datacenter และการจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกจะทำให้เราสามารถ ตอบโจทย์ความต้องการทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ให้กับลูกค้าของเราได้ดียิ่งขึ้น ส่วนการย้ายเหมืองขุดบิตคอยน์ของเราจำนวน 3,500 เครื่อง คิดเป็นกำลังขุดที่ 423,000 Terrahash/s จากประเทศไทยไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า ด้วยความสามารถของกำลังการขุดนี้ จะทำให้ได้บิตคอยน์คิดเป็นจำนวน 500 บิตคอยน์ต่อปีในต้นทุนต่อเหรียญที่ถูกลงรวมถึงการพัฒนา Bitcoin & Lightning Platform ของเราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางด้าน Fintech และยกระดับธุรกิจไปสู่ระดับ Global Scale
อ่านข่าวสารเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikibit.com/th/original/1.html
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
South Korea: Upbit Investigated for Over 500,000 KYC Violations
MacBook Users with Intel Chips Urged to Update for Enhanced Security
Solana-Based Trading Terminal DEXX Hacked, Over $21M in User Losses
South Korea to Enforce 20% Crypto Tax in 2025 with Increased Exemption Limit
0.00