ตำรวจไซเบอร์ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายถูกคนร้ายมาตีสนิทผ่านแอพพลิเคชันเฟสบุ๊คและชักชวนให้ซื้อเงินดิจิทัลสกุล USDT โอนไปตามเลขกระเป๋าที่คนร้ายระบุผ่านแพลตฟอร์มปลอม BCHGLOBALLTD.com ที่คนร้ายสร้างขึ้น
ตำรวจไซเบอร์ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายถูกคนร้ายมาตีสนิทผ่านแอพพลิเคชันเฟสบุ๊คและชักชวนให้ซื้อเงินดิจิทัลสกุล USDT โอนไปตามเลขกระเป๋าที่คนร้ายระบุผ่านแพลตฟอร์มปลอม BCHGLOBALLTD.com ที่คนร้ายสร้างขึ้น หลังจากผู้เสียหายต้องการจะถอนเงินต้นพร้อมผลกำไรก็ไม่สามารถถอนได้ โดยแจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินดิจิทัลไปลงทุนเพิ่มจึงจะสามารถถอนได้ แต่เมื่อผู้เสียหายโอนไปเพิ่มก็ไม่สามารถถอนได้แต่อย่างใดและแพลตฟอร์มดังกล่าวก็ปิดตัวลง รวมมูลค่าความเสียหายในคดีนี้ 8,520,494 บาท
จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายได้มีการโอนเงินดิจิทัลไปยังกระเป๋าที่ไม่ระบุตัวตนหลายกระเป๋า ก่อนที่คนร้ายจะมีการโอนเข้าบัญชีของแพลตฟอร์มสำหรับเทรดเงินดิจิทัลแพลตฟอร์มหนึ่ง ตรวจสอบพบว่าเจ้าของบัญชีเป็นชาวลาวแต่กลับมีการใช้งานอยู่ในหลายประเทศ เช่น พม่า มาเลเซีย ดูไบ ลาว ฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทย เงินผ่านบัญชีในระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือนมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท จึงเชื่อว่าบัญชีดังกล่าวเจ้าของบัญชีที่ไม่ได้เป็นผู้ใช้งานที่แท้จริง ตรวจสอบเพิ่มเติมเบื้องต้นพบว่าเชื่อมโยงกับคดี สภ.บางสะพาน
โดยผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้เทรดผ่านแพลตฟอร์ม Bitmoxa มูลค่าความเสียเสียหาย 658,320 บาท และ สน.โชคชัย โดยผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้เทรดผ่านแพลตฟอร์ม Orangex มูลค่าความเสียหาย 18,266,000 บาท และไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ายังมีผู้เสียหายจากประเทศสหรัฐอเมริกา 2 คดี และอังกฤษ 1 คดี ที่มีความเชื่อมโยงกับบัญชีดังกล่าวอยู่ระหว่างประสานข้อมูลจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งบัญชีดังกล่าวทางตํารวจได้มีการประสานขอให้ระงับการทำธุรกรรมชั่วคราวโดยพบว่ายังมีเงินสกุลดิจิทัลอยู่ในบัญชีมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
จึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ หรือ Homeland Security Investigation (HSI) รวมถึงหน่วยงานต่างประเทศและภายในประเทศหลายหน่วยงานจนกระทั่งได้ข้อมูลที่จะนําไปสู่ตัวคนร้าย จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายที่ใช้งานบัญชีดังกล่าวตัวจริงคือนายซู สัญชาติจีน พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรูย่านศรีนครินทร์ราคาหลังละประมาณ 60-80 ล้านบาท ร่วมกับนางสาวยี่ สัญชาติจีน ภรรยา พบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่มีการทำงานใดๆ แต่ใช้ชีวิตหรูหรา
เป็นที่มาของการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ระหว่างตำรวจไซเบอร์ร่วมกับกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (COMMANDO) นำหมายจับและหมายค้นเข้าตรวจสถานที่หมู่บ้านโครงการหรู ย่านศรีนครินทร์ จำนวน 5 จุด และอีก 1 จุด ภายในโครงการหมู่บ้านย่านพัฒนาการ 30 พบบุคคลตามหมายจับ คือ นายซู และ นางสาวยี่
คดีนี้ถึงแม้จะสามารถระงับการทำธุรกรรมบัญชีเงินดิจิทัลที่มีทรัพย์สินดิจิทัลรวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาทในบัญชีได้ เมื่อดูยอดเงินผ่านบัญชีในระยะเวลา 3 เดือน รวมกว่า 450 ล้านบาท แต่นี่เพียงแค่บัญชีเดียวเท่านั้น สำหรับคดีนี้จะมีการขยายผลอย่างต่อเนื่องโดยจะเน้นการนำพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาประกอบเพื่อหยุดยั้งความเสียหายต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป
ที่มา : กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
อ่านข่าวสารเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikibit.com/th/original/1.html
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
South Korea: Upbit Investigated for Over 500,000 KYC Violations
MacBook Users with Intel Chips Urged to Update for Enhanced Security
Solana-Based Trading Terminal DEXX Hacked, Over $21M in User Losses
South Korea to Enforce 20% Crypto Tax in 2025 with Increased Exemption Limit
0.00
NSBroker
switchere
FXopen
MEXC
Stockpoint
CRYPTOMARKET
buda.com
KRIPTOMAT
BINANCE.KR
COINSWITCH